บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

เห็นกายในกายภาย นอกเห็นอะไร

ในเว็บบ้านธัมมะ ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา มีคนมาตั้งกระทู้สนทนาธรรมว่า “เห็นกายในกาย ภายนอกบ้าง เห็นอะไรคะ” มีเนื้อหาของกระทู้ ดังนี้

เห็นกายในกายภายในบ้าง
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง
เห็นกายในกายภายในภายนอกบ้าง
ได้ยินบ่อยค่ะ  แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ภายในภายนอกเป็นอย่างไร และเห็นกายในกายเป็นอย่างไร  ขอท่านผู้รู้ให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ .

คุณ prachern.s  เข้ามาตอบเป็นคนแรกเลย ดังนี้

เห็นกายในกายภายใน คือ รูปภายในกายตนเอง
เห็นกายในกายภายนอก คือ รูปกายของผู้อื่น
เห็นกายในกาย ภายในภายนอก คือ กล่าวรวมทั้งของตนเองและผู้อื่นครับ

คำตอบของคุณ prachern.s  อ่านแล้วก็ดูเหมือนดี มีความรู้  แต่ถ้าพิจารณากันจริงๆ แล้ว มันเป็นอย่างไร ผมว่า คุณ prachern.s  ก็คงตอบไม่ได้

คำตอบแบบที่ คุณ prachern.s  ตอบมานั้น ไม่ได้ช่วยให้คนถามได้ความรู้อะไรไปเลย อ่านแล้วก็คงมึนไปอีก  

คำตอบแบบนี้ มันต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมอีกมาก

คุณ prachern.s  ก็น่าจะเหมือนคนอีกเป็นจำนวนมากที่เข้ามาตอบกระทู้เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง ทั้งๆ ที่ความรู้ไม่ได้แน่นหนาอะไรเลย

ต่อมา คุณวิริยะ ได้เข้ามาให้ความเห็นเป็นคนที่สอง โดยถามคุณ prachern.s  ว่า

เรียนความเห็นที่ 1 ข้อความที่เจ้าของกระทู้โพสต์มานั้น ก็ได้ยินบ่อยมากนะคะ แต่ไม่เคยรู้หรอกค่ะ ว่าแปลว่าอะไร

สิ่งนั้น คือการเจริญสมถภาวนาในหัวข้อกายคตา ใช่ไหมคะ

ขอบพระคุณค่ะ

ปรากฏว่า คุณ prachern.s  ไม่กล้าตอบปัญหาของคุณวิริยะ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในกระทู้ดังกล่าว หลักฐานก็คือ คุณ prachern.s  ไปตอบปัญหาของความคิดเห็นที่ 6

นี่คือ ลักษณะนิสัยของคนไทยจำนวนมาก ที่เข้ามาให้ความคิดเห็นในกระทู้ต่างๆ คือ รู้ไม่มาก แต่ไม่อ่านเพิ่มเติม 

พอมีใครถามอะไร พอจะตอบได้ ก็ตาลีตาเหลือกตอบเพื่อสนองตัณหาของตัวเองเท่านั้น

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นของคุณวันใหม่ สงสัยเป็นพระ ตอบอย่างยาวเลยเลยดังนี้

อิทมฺปิ  พุทฺเธ  รัตนํ  ปณีตํ  เอเตน  สจฺเจน สุวตฺถิ  โหตุ  แม้นี้ก็เป็นรัตนะอันประณีตคือพระพุทธเจ้า  ด้วยคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์ทั้งหลาย

จากคำถามกระทู้

เห็นกายภายในและกายภายนอก ด้วยปัญญาที่เห็นตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา กายภายใน คือ ตัวเราที่หลงยึดถือด้วยความเห็นผิดว่า เป็นเราจริงๆ ก็เป็นธรรมเป็นเพียงธาตุ 

กายภายนอก คือ บุคคลอื่นก็เป็นธรรมทั้งหมด ละความยึดถือว่าเป็นกายของเรา และกายของผู้อื่นเพราะเห็นตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา

คุณวันใหม่ก็มั่วหนักขึ้นไปอีก เพราะ “ไม่ยอมเห็นแล้ว

พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นสาวกของพระพม่า  ใช้คำศัพท์ว่า “เห็น” แต่ไม่ยอมเห็น จะใช้ “รู้สึก” หรือ “เข้าใจ” แทน

เรียนความเห็นที่ 2

เห็นกายภายในและกายภายนอกเป็นการอบรมสติปัฏฐาน (วิปัสสนา) ในหมวดของกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ไม่ใช่การอบรมสมถภาวนา

ส่วนกายคตาสตินั้น เป็นได้ทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา ที่สำคัญขอให้เริ่มต้นเข้าใจถูก ก่อนว่าธรรมคืออะไร ย่อมสามารถเข้าใจในประเด็นอื่นได้อย่างถูกต้อง สาธุ

คุณวันใหม่เขียนอย่างนี้  คนอ่านที่ไม่คิดมากคงคิดว่า คุณวันใหม่นี่ คงโคตรเก่งเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว  คุณวันใหม่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

กายคตาสติอยู่ในอนุสติ 10 ของสมถะกรรมฐาน  40 แล้วจะไปอยู่ในวิปัสสนากรรมฐานอีกได้อย่างไร

ต่อมาเจ้าของกระทู้เข้ามาตอบว่า

กระจ่างแล้วค่ะ 

ตอนแรกที่ไม่เข้าใจว่า ภายใน ให้ดูให้เห็นว่า ร่างกายของเราประกอบด้วย น้ำเลือด  น้ำหนอง ฯลฯ  ส่วนภายนอก เราจะไปดูที่ไหน  วิธีดูแบบนี้เป็นสมถภาวนาใช่ไหมคะ

ต้องขอขอบคุณ อาจารย์เผชิญ และคุณวันใหม่ ที่ทำให้เกิดปัญญา  ขออนุโมทนาค่ะ

เจ้าของกระทู้นี่ก็มั่วพอๆ กัน  ถึงว่า ถึงเสวนากันได้  ผมอ่าน ผมยังไม่เข้าใจว่า เจ้าของกระทู้มันกระจ่างอย่างไร 

กระจ่างแล้ว “เสือก” ถามต่อว่า “วิธีดูแบบนี้ เป็นสมถภาวนาใช่ไหมคะ” ทำไม

สติปัฏฐานนั้น อยู่สูงกว่า สมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน พูดให้ชัดๆ ก็คือสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานเป็นพื้นฐานของสติปัฏฐาน

ต่อมามีคนชื่อวารีเย็นมาให้ความเห็นให้ปวดหัวขึ้นไปอีกเป็นความคิดเห็นที่ 5 ดังนี้

กายในกายพิจารณากายในกายเรานี่แหละ ไม่มีอะไร มีแต่ธาตุที่เกิดดับ

กายภายนอก ไม่ใช่ดูคนอื่นหรอก พิจารณากายภายนอกเรานี่แหละ ที่เรารับรู้นี้เป็นเพียงธาตุที่เกิดดับ

เขาคุยกันมาตั้งนานและยอมรับแล้วว่า กายในกาย ณ ภายนอก คือ กายในกายของคนอื่น 

คุณวารีเย็นไม่รู้ไปเมามาจากไหน บอกว่า “กายภายนอก ไม่ใช่ดูคนอื่นหรอกพิจารณากายภายนอกเรานี่แหละ ที่เรารับรู้นี้เป็นเพียงธาตุที่เกิดดับ

แกคงไม่ได้อ่านที่เขาเสวนากันมาเลย

ต่อมา คุณ majweerasak เข้ามาถาม คุณ prachern.s  ดังนี้

เรียนถามท่าน อ. เผชิญ ครับ

ผมเข้าใจว่า กายมีสองอย่าง คือ นามกายกับรูปกาย ไม่ทราบว่า กาย ในที่นี้ หมายถึง รูปกายอย่างเดียวใช่ไหมครับ

ขอให้สังเกตว่า คุณ prachern.s  ไม่กล้าตอบคำถามของความคิดเห็นที่ 2 แต่ “เสือก” มาตอบความคิดเห็นที่ 6 ดังนี้

เรียนความเห็นที่ ๖

คำว่า กาย ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐานต้องหมายถึง รูปกายอย่างเดียวครับ

เท่าที่อ่านมาทั้งหมดนั้น  ผมรู้สึกอเนจอนาถใจกับเว็บของบ้านธัมมะ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาจริงๆ

เพราะ ไม่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องกับคนอ่านได้เลย

กายเห็นกายในกาย ณ ภายในภายนอกนั้น  ที่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นวิชาการ และสามารถปฏิบัติตามได้ มีสายวิชาธรรมกายเท่านั้นที่สามารถอธิบายได้

คนทุกคนมี 18 กาย  เราสามารถดูกายของคนทุกคนในโลกนี้ได้

สมมุติว่า ผมจะดูกายของท่านผู้อ่าน  คือ กายในกาย ณ ภายนอก   ในตอนนี้ ขอสมมุติอีกที่ว่า ผมกำลังดูกายอรูปพรหมของท่านผู้อ่าน

กายรูปพรหมของท่านผู้อ่านก็คือ กายในกาย ณ ภายนอก เพราะเป็นกายที่อยู่ข้างนอกออกมา เป็นกายที่หยาบกว่า

ส่วนกายธรรมโคตรภูก็คือ กายในกาย ณ ภายใน เพราะเป็นกายที่อยู่ข้างข้างในเข้าไป เป็นกายที่ละเอียดกว่า






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น