ในเว็บบ้านธัมมะ
ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา มีคนมาตั้งกระทู้สนทนาธรรมว่า “เห็นกายในกาย
ภายนอกบ้าง เห็นอะไรคะ” มีเนื้อหาของกระทู้ ดังนี้
เห็นกายในกายภายในบ้าง
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง
เห็นกายในกายภายในภายนอกบ้าง
ได้ยินบ่อยค่ะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ภายในภายนอกเป็นอย่างไร
และเห็นกายในกายเป็นอย่างไร
ขอท่านผู้รู้ให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ .
|
คุณ
prachern.s เข้ามาตอบเป็นคนแรกเลย ดังนี้
เห็นกายในกายภายใน คือ รูปภายในกายตนเอง
เห็นกายในกายภายนอก คือ รูปกายของผู้อื่น
เห็นกายในกาย ภายในภายนอก คือ กล่าวรวมทั้งของตนเองและผู้อื่นครับ
|
คำตอบของคุณ
prachern.s อ่านแล้วก็ดูเหมือนดี
มีความรู้ แต่ถ้าพิจารณากันจริงๆ แล้ว
มันเป็นอย่างไร ผมว่า คุณ prachern.s
ก็คงตอบไม่ได้
คำตอบแบบที่
คุณ prachern.s ตอบมานั้น
ไม่ได้ช่วยให้คนถามได้ความรู้อะไรไปเลย อ่านแล้วก็คงมึนไปอีก
คำตอบแบบนี้
มันต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมอีกมาก
คุณ
prachern.s ก็น่าจะเหมือนคนอีกเป็นจำนวนมากที่เข้ามาตอบกระทู้เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง
ทั้งๆ ที่ความรู้ไม่ได้แน่นหนาอะไรเลย
ต่อมา
คุณวิริยะ ได้เข้ามาให้ความเห็นเป็นคนที่สอง โดยถามคุณ prachern.s ว่า
เรียนความเห็นที่ 1 ข้อความที่เจ้าของกระทู้โพสต์มานั้น
ก็ได้ยินบ่อยมากนะคะ แต่ไม่เคยรู้หรอกค่ะ ว่าแปลว่าอะไร
สิ่งนั้น คือการเจริญสมถภาวนาในหัวข้อกายคตา ใช่ไหมคะ
ขอบพระคุณค่ะ
|
ปรากฏว่า
คุณ prachern.s ไม่กล้าตอบปัญหาของคุณวิริยะ
ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในกระทู้ดังกล่าว หลักฐานก็คือ คุณ prachern.s ไปตอบปัญหาของความคิดเห็นที่ 6
นี่คือ
ลักษณะนิสัยของคนไทยจำนวนมาก ที่เข้ามาให้ความคิดเห็นในกระทู้ต่างๆ คือ รู้ไม่มาก
แต่ไม่อ่านเพิ่มเติม
พอมีใครถามอะไร
พอจะตอบได้ ก็ตาลีตาเหลือกตอบเพื่อสนองตัณหาของตัวเองเท่านั้น
ความคิดเห็นที่
3 เป็นของคุณวันใหม่ สงสัยเป็นพระ ตอบอย่างยาวเลยเลยดังนี้
อิทมฺปิ พุทฺเธ รัตนํ
ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ แม้นี้ก็เป็นรัตนะอันประณีตคือพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
จากคำถามกระทู้
เห็นกายภายในและกายภายนอก ด้วยปัญญาที่เห็นตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา
กายภายใน คือ ตัวเราที่หลงยึดถือด้วยความเห็นผิดว่า เป็นเราจริงๆ ก็เป็นธรรมเป็นเพียงธาตุ
กายภายนอก คือ บุคคลอื่นก็เป็นธรรมทั้งหมด
ละความยึดถือว่าเป็นกายของเรา และกายของผู้อื่นเพราะเห็นตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา
|
คุณวันใหม่ก็มั่วหนักขึ้นไปอีก
เพราะ “ไม่ยอมเห็นแล้ว”
พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นสาวกของพระพม่า ใช้คำศัพท์ว่า “เห็น”
แต่ไม่ยอมเห็น จะใช้ “รู้สึก” หรือ “เข้าใจ” แทน
เรียนความเห็นที่ 2
เห็นกายภายในและกายภายนอกเป็นการอบรมสติปัฏฐาน (วิปัสสนา) ในหมวดของกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ไม่ใช่การอบรมสมถภาวนา
ส่วนกายคตาสตินั้น เป็นได้ทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา ที่สำคัญขอให้เริ่มต้นเข้าใจถูก
ก่อนว่าธรรมคืออะไร ย่อมสามารถเข้าใจในประเด็นอื่นได้อย่างถูกต้อง สาธุ
|
คุณวันใหม่เขียนอย่างนี้ คนอ่านที่ไม่คิดมากคงคิดว่า คุณวันใหม่นี่
คงโคตรเก่งเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณวันใหม่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
กายคตาสติอยู่ในอนุสติ
10 ของสมถะกรรมฐาน 40
แล้วจะไปอยู่ในวิปัสสนากรรมฐานอีกได้อย่างไร
ต่อมาเจ้าของกระทู้เข้ามาตอบว่า
กระจ่างแล้วค่ะ
ตอนแรกที่ไม่เข้าใจว่า ภายใน ให้ดูให้เห็นว่า
ร่างกายของเราประกอบด้วย น้ำเลือด
น้ำหนอง ฯลฯ ส่วนภายนอก
เราจะไปดูที่ไหน วิธีดูแบบนี้เป็นสมถภาวนาใช่ไหมคะ
ต้องขอขอบคุณ อาจารย์เผชิญ และคุณวันใหม่
ที่ทำให้เกิดปัญญา ขออนุโมทนาค่ะ
|
เจ้าของกระทู้นี่ก็มั่วพอๆ
กัน ถึงว่า ถึงเสวนากันได้ ผมอ่าน ผมยังไม่เข้าใจว่า
เจ้าของกระทู้มันกระจ่างอย่างไร
กระจ่างแล้ว
“เสือก” ถามต่อว่า “วิธีดูแบบนี้ เป็นสมถภาวนาใช่ไหมคะ” ทำไม
สติปัฏฐานนั้น
อยู่สูงกว่า สมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน พูดให้ชัดๆ
ก็คือสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานเป็นพื้นฐานของสติปัฏฐาน
ต่อมามีคนชื่อวารีเย็นมาให้ความเห็นให้ปวดหัวขึ้นไปอีกเป็นความคิดเห็นที่
5 ดังนี้
กายในกายพิจารณากายในกายเรานี่แหละ ไม่มีอะไร มีแต่ธาตุที่เกิดดับ
กายภายนอก ไม่ใช่ดูคนอื่นหรอก พิจารณากายภายนอกเรานี่แหละ ที่เรารับรู้นี้เป็นเพียงธาตุที่เกิดดับ
|
เขาคุยกันมาตั้งนานและยอมรับแล้วว่า
กายในกาย ณ ภายนอก คือ กายในกายของคนอื่น
คุณวารีเย็นไม่รู้ไปเมามาจากไหน
บอกว่า “กายภายนอก ไม่ใช่ดูคนอื่นหรอกพิจารณากายภายนอกเรานี่แหละ
ที่เรารับรู้นี้เป็นเพียงธาตุที่เกิดดับ”
แกคงไม่ได้อ่านที่เขาเสวนากันมาเลย
ต่อมา
คุณ majweerasak
เข้ามาถาม คุณ prachern.s
ดังนี้
เรียนถามท่าน อ. เผชิญ ครับ
ผมเข้าใจว่า กายมีสองอย่าง คือ นามกายกับรูปกาย ไม่ทราบว่า กาย
ในที่นี้ หมายถึง รูปกายอย่างเดียวใช่ไหมครับ
|
ขอให้สังเกตว่า
คุณ prachern.s ไม่กล้าตอบคำถามของความคิดเห็นที่
2 แต่ “เสือก” มาตอบความคิดเห็นที่ 6
ดังนี้
เรียนความเห็นที่ ๖
คำว่า กาย ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐานต้องหมายถึง รูปกายอย่างเดียวครับ
|
เท่าที่อ่านมาทั้งหมดนั้น ผมรู้สึกอเนจอนาถใจกับเว็บของบ้านธัมมะ
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาจริงๆ
เพราะ
ไม่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องกับคนอ่านได้เลย
กายเห็นกายในกาย
ณ ภายในภายนอกนั้น
ที่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นวิชาการ และสามารถปฏิบัติตามได้
มีสายวิชาธรรมกายเท่านั้นที่สามารถอธิบายได้
คนทุกคนมี
18 กาย
เราสามารถดูกายของคนทุกคนในโลกนี้ได้
สมมุติว่า
ผมจะดูกายของท่านผู้อ่าน คือ กายในกาย ณ
ภายนอก ในตอนนี้ ขอสมมุติอีกที่ว่า
ผมกำลังดูกายอรูปพรหมของท่านผู้อ่าน
กายรูปพรหมของท่านผู้อ่านก็คือ
กายในกาย ณ ภายนอก เพราะเป็นกายที่อยู่ข้างนอกออกมา เป็นกายที่หยาบกว่า
ส่วนกายธรรมโคตรภูก็คือ
กายในกาย ณ ภายใน เพราะเป็นกายที่อยู่ข้างข้างในเข้าไป เป็นกายที่ละเอียดกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น