บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ควายตาลโตนโดนเชือด


ในบทความ “ควายตาลโตน” ที่ผ่านมา จะเห็นว่า ควายตาลโตนเริ่มจะหนีแล้ว เริ่มจะออกตัวแล้ว เพราะ รู้ว่าเจ้าของกระทู้คงเอาจริง

เมื่อควายตาลโตนตอบมาดังท้ายๆ ของบทความ “ควายตาลโตน” เจ้าของกระทู้ก็ตอบไปอีก ดังนี้

เรียน คุณตาลโตน

1.  ที่ผมถามอย่างนั้น เพราะข้อเขียนของคุณผิดมหาศาล  ผมจึงต้องถามก่อน

แสดงว่า คุณไม่เคยไปเรียนอังกฤษ และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในอังกฤษเลย

มหาวิทยาลัยที่ ดร. มนัส ไปเรียนที่อังกฤษชื่อ University of Leeds  ไม่ใช่ University of Leeds  Integrated science

2.  University of Leeds มีคณะ  Faculty of Education, social Sciences and Law

อาจารย์ที่ปรึกษาของ ดร. มนัส โกมลฑา ตอนเรียนที่โน่นคือ Professor Duncan McCargo  อ่านรายละเอียดได้ที่นี่  http://www.polis.leeds.ac.uk/about/staff/mccargo/

3.  ดร. มนัส โกมลฑา เรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก จึงต้องเรียน  2  ประเทศ

ที่กล่าวมานี้ เพื่อยืนยันว่า ข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเลย

สำหรับคำถาม  ผมยังตอบการถามต่อว่า "การสอนเด็กในวีดีโอนั้น มีข้อเสียอย่างไร"  ผมขอหลักฐานอย่างเป็นวิชาการ ไม่ใช่คุณคิดขึ้นมาเอง แล้วก็เขียนมา

ขอความกรุณาค้นคว้าให้มากกว่านี้ อย่ามั่วข้อมูลมาอีก เพราะ มันจะอายคนอ่านเขา

โดยปกติแล้ว เมื่อลงความคิดเห็นมาผิดอย่างมากมายมหาศาลอย่างนี้  ก็ควรจะหนีกระทู้ไปได้แล้ว แต่ควายตาลโตนหน้าด้านกว่าที่คิดไว้ 

ยังจะหน้าด้านเข้ามาให้ความคิดเห็นอีกดังนี้

ง่ายๆ เรื่องจะพิสูจน์ว่าดร.ได้รับปริญญาจบeducation social sciences and law จาก University of Leeds นะ ใครก็อ้างได้ ขอหลักฐานทางภาพถ่าย รับปริญญามายืนยันหน่อย

และการจะไปอ้างอิง Professor Duncan McCargo เป็น อ.ที่ปรึกษานะไหนรายชื่อ ดร.มนัส

ลองไปดูหน้าเฟสซิ มีอะไรน่าเชื่อถือบ้าง  ทำไมรึ คลิปต่างๆจึงโดนปิดหมด ผมว่าลวงโลกมากกว่านะ  https://www.facebook.com/manaskomoltha

ควายตาลโตนนี่ ทั้งหน้าด้านและโง่กว่าที่คิดไว้ คือ ควายตาลโตนพยามไป search เจอเฟสบุ้กของผม ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าไปนัก เพราะ ไม่ค่อยมีเวลา 

สำหรับเฟสบุ้กที่ควายตาลโตนว่า “โดนปิด” นั้น มันเป็นความโง่ของควายตาลโตน คือ เฟสบุ้กที่ไม่ค่อยได้เข้าไปเล่น หน้าจอมันจะปิดตัวเอง

ต้องไปคลิกที่แถบต่างๆ ก่อน หน้าจอถึงจะเปิดออกมา

ท่านเจ้าของกระทู้ตอบควายตาลโตนไปอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้

เรียนคุณตาลโตน  ขอร้องว่าอย่าพยายามเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น  ผมถามคุณไปหลายครั้งแล้วว่า "การสอนเด็กในวีดีโอนั้น มีข้อเสียอย่างไร"

ส่วนเฟสบุ้ก  คุณเล่นเป็นหรือเปล่า  คุณต้องคลิกแถบต่างๆ ข้อมูลมันถึงจะออกมา

เพิ่งเล่นคอมฯ เป็นหรือเปล่า  คุณไปศึกษามาให้มากกว่านี้ แล้วค่อยมาให้ความคิดเห็นจะดีกว่า

ควายตาลโตนซึ่งตอนนี้ หน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บแล้ว ควรจะหนีได้แล้ว ก็ยังหน้าด้านเข้ามาอีกว่า

555..ลองดูประวัติซิ ว่าล็อคอินตาลโตน กำเนิดพร้อมเวปพันทิปปีอะไร อันนี้ของจริงไม่ใช่ล็อคอินมือถือ

ส่วนเรื่องวีดีโอสอนเรื่องไร้สาระนั้นรึ ตอบได้ว่า เลอะเทอะและอันตรายมากสำหรับเด็กๆ มาก

ไม่รู้ไปเอาวิธีสอนนี้มาจากไหน มาให้เด็กสร้างจินตนาการบ้องๆ แล้วให้วาดจินตนาการนั้นออกมา

ถามว่า เด็กนั่งยุกยิกเกาหัวเกาหูเพราะรำคาญที่ต้องถูกบังคับให้นั่งฟังคนบ้า พูดพล่ามเหมือนคนเมา

เด็กเขาได้อะไร ก็คงจะคิดว่า เฮ่อน่าเบื่อ..ครูติงต๊อง เซ็งในเซ็ง เบื่อในเบื่อ ไร้ปัญญาสิ้นดี

เรื่องนี้จะส่งให้กระทรวงศึกษาเข้าไปติดตามตรวจสอบพฤติกรรม ของกลุ่มคนพวกนี้ ว่ากำลังทำอะไรอยู่

คงจะได้ลาก ขบวนการ "ธรรมเกิน" ออกมาแฉกันบ้างแล้ว..555

ดูพฤติกรรมของควายตาลโตน ตอนนี้ไม่รู้จะเอาตรงไหนไปเถียง ก็เอาเรื่องสมัครพันธุ์ทิพย์ด้วยบัตรประชาชนกับโทรศัพท์มาเป็นประเด็น

สำหรับวิดิโอการสอนนั้น ก็โจมตีไปเรื่อย แบบไม่มีเหตุผล

ท่านเจ้าของกระทู้ก็ตอบไปอีกครั้งว่า

เรียนคุณตาลโตน มันไม่เกี่ยวกับการอยู่ในพันธุ์ทิพย์มานานแค่ไหน  มันเกี่ยวกับ "ข้อมูล" ที่คุณให้ ข้อมูลที่คุณให้ผิดทั้งหมด   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

ซึ่งหมายความว่า "คุณไม่รู้เรื่องที่คุณกำลังเขียนอยู่"

คุณจะหาเรื่อง "หน้าแตก" ไปทำไมอีก  คุณไปค้นคว้ามาให้มากกว่านี้ แล้วค่อยมาให้ความคิดเห็น ถึงจะมีประโยชน์ต่อคนอ่าน

ผมถามคุณอีกครั้ง  "การสอนเด็กในวีดีโอนั้น มีข้อเสียอย่างไร" ตอบอย่างมีหลักวิชาการ   ไม่ใช่คิดไปเองอย่างที่คุณเขียนมา

ถ้าตอบไม่ได้  ก็หนีกระทู้ไปเถอะ  อยู่ไปก็อายคนอ่านเขาเปล่าๆ

จนถึงกระทั่งบัดนี้ ควายตาลโตนก็ยังไม่ไป  ก็ยังเข้ามาให้ความเห็นอีกดังนี้

เรียนท่านมือถือ

ดูคลิปแล้ว ตอบตามหลักวิชาการ ว่าเป็น vdo "ธรรมเกิน" ลูกหลาน "ธรรมโกย" เข้าใจชัดเจน ไหมครับท่าน.

ขอให้สังเกตดู ตอนแรกๆ ควายตาลโตนจะลงความคิดเห็นมาก พอเถียงกันไปเรื่อยๆ ก็สั้นๆ ลง ไม่มีเหตุผล ไปเรื่อย สุดท้ายก็เขียนได้แค่นั้น

ความอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ ไม่มีเหลืออีกต่อไป

ท่านเจ้าของกระทู้ก็ตอบไปอีกครั้งว่า

เรียนคุณตาลโตน  ไปไม่เป็นแล้ว... คุณตาลโตน หน้าแตกแล้วแตกอีก ยังไม่หนี  คุณคงมีปัญหา

ถามหน่อย คุณเป็นกะเทยหรือเป็นผู้หญิงหรือเปล่า  คุณไม่ได้ "ด่า" วิชาธรรมกายเหมือนคนอื่น  แต่คุณตั้งใจโจมตีไปที่การสอนของ ดร. มนัส

หรือคุณอิจฉาที่อาจารย์ของคุณกับพรรคพวกของคุณสอนไม่ได้อย่างที่ ดร. มนัสสอน

ผมศึกษามามากพอสมควร  คิดว่าน่าจะมากกว่าคุณ 

กลุ่มของ ดร. มนัสสอนได้ผลจริงๆ  สอนเด็กอนุบาลได้ เด็กตาบอดก็สอนได้ เด็กหูหนวกก็สอนได้ เด็กปัญญาอ่อนก็สอนได้

จึงอาจสร้างความอิจฉาให้กับกลุ่มที่สอนไม่ได้ คุณจะทำอย่างไรล่ะ มันขึ้นกับบารมีส่วนบุคคล  บารมีน้อยก็สอนได้น้อย  บารมีมากก็สอนได้มาก

ท่านเจ้าของกระทู้จับประเด็นได้ว่า ควายตาลโตนมันอิจฉาที่ผมสอนได้ดีกว่าอาจารย์หรือพวกของควายตาลโตนเท่านั้น  ถึงได้เข้ามาป่วนกระทู้

หลังจากนั้นมา ควายตาลโตนก็ไม่เคยมายุ่งกับกระทู้ของท่านเจ้าของกระทู้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ใดๆ

เรียกว่า “เข็ดขยาด” กันเลยทีเดียว






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น